คำถามที่พบบ่อยสำหรับผู้ทาน Caldy Coffee

1 ทาน คาลดี้ คอฟฟี่ กี่วัน จึงจะเริ่มเห็นผล ?

– คาลดี้ คอฟฟี่ ไม่มีส่วนผสมของยาหรือสเตียรอยด์ การเห็นผลจึงเป็นแบบค่อยเป็นค่อไป ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละท่านด้วย บางท่านอาการปวดข้อ ปวดเข่า ลดลงตั้งแต่ 1-2 อาทิตย์แรก แต่โดยส่วนใหญ่จะเริ่มเห็นผลที่ประมาณ 1 เดือน ส่วนผู้ที่เป็นข้อเสื่อมจะเริ่มเห็นผลชัดเจนที่ประมาณ 2-3 เดือนคะ

2 ทาน คาลดี้ คอฟฟี่ วันละกี่ซอง จึงจะเห็นผล ?

– แนะนำทานวันละ 2 ซองคะ จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วและชัดเจนที่สุดคะ

3 ควรทาน คาลดี้ คอฟฟี่ เวลาไหน ?

– แนะนำช่วงเช้า 1 ซอง และช่วงบ่าย 1 ซอง ไม่ควรทานหลัง 18.00 น. นะคะ ถึงแม้ว่าประมาณคาเฟอีนใน คาลดี้ คอฟฟี่ จะน้อยมาก (ประมาณ 2 มก. จากปริมาณกาแฟ 5 กรัม) ซึ่งน้อยกว่าปริมาณคาเฟอีนในโคลา 1 กระป๋องคะ แต่สำหรับบางท่านก็อาจจะส่งผลต่อการนอนหลับได้คะ

4 สามารถทาน คาลดี้ คอฟฟี่ ได้สูงสุดวันละกี่ซอง ?

– เนื่องจากปริมาณคาเฟอีนใน คาลดี้ คอฟฟี่ น้อยมากๆ ดังนั้นถ้าท่านเป็นคนชอบดื่มกาแฟเป็นปกติ สามารถทานได้มากกว่าวันละ 2 ซองคะ (ร่างกายปกติไม่ควรรับคาเฟอีนเกินวันละ 400 มิลลิกรัม)

5 คาลดี้ คอฟฟี่ ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?

– คาลดี้ คอฟฟี่ มีส่วนผสมของสารสกัดทั้งหมด 32 ชนิด ซึ่งออกแบบสูตรมาสำหรับผู้ที่มีปัญหา เรื่อง 1.ข้อและกระดูก, 2.สายตาและการมองเห็น และ 3.สมองและระบบประสาท ตลอดจนปัญหาสุขภาพองค์รวมอื่นๆ

6 ทาน คาลดี้ คอฟฟี่ แล้วจะมีอาการข้างเคียงไหม ?

– คาลดี้ คอฟฟี่ ใช้สารสกัดจากธรรมชาติ ไม่มีสเตียรอยด์และไม่ใช่ยา จึงไม่มีอาการข้างเคียง สามารถทานต่อเนื่องได้ทุกวันคะ

7 พออาการดีขึ้นแล้ว หยุดทาน คาลดี้ คอฟฟี่ ได้ไหม ?

– สามารถหยุดทานเมื่อไหร่ก็ได้คะ แต่แนะนำให้ทานต่อเนื่อง เพราะข้อและกระดูกของเรามีอัตราการเสื่อมตลอดเวลามากขึ้นทุกวัน ตามอายุที่เพิ่มขึ้นและการใช้งานคะ การบำรุงข้อและกระดูกอย่างต่อเนื่อง จะช่วยป้องกันโรคข้อและกระดูกเสื่อมได้เป็นอย่างดีคะ

8 ทานยาหมออยู่ ทาน คาลดี้ คอฟฟี่ ได้ไหม ?

– สามารถทาน คาลดี้ คอฟฟี่ ควบคู่กับยาที่แพทย์สั่งได้เลยคะ

9 เป็นเบาหวาน ความดัน ทานได้ไหม ?

– คาลดี้ คอฟฟี่ ใช้หญ้าหวานแทนน้ำตาล ดังนั้นผู้ที่เป็นเบาหวานสามารถทานได้คะ นอกจากนี้ยังใช้ครีมสกัดจากไขมันมะพร้าว ไม่มีไขมันทรานส์ ไม่มีคอเลสเตอรอล จึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องความดันนะคะ

10 ทาน คาลดี้ คอฟฟี่ แล้วจะอ้วนไหม ?

– คาลดี้ คอฟฟี่ ไม่ทำให้อ้วนนะคะ มีส่วนผสมหลายตัวช่วยในเรื่องของการควบคุมน้ำหนักและระบบขับถ่าย (สารสกัดจากถั่วขาว, ไซเลี่ยมฮัสก์, สารสกัดจากส้มแขก, สารสกัดจากกระบองเพชร, ผงพรุน, แอปเปิ้ล ไฟเบอร์, สตีวิออลไกลโคไซด์, โครเมียมพิโคลิเนต) ดังนั้นถ้าทานปริมาณอาหารและจำนวนมื้อต่อวันเท่าเดิม จะไม่ทำให้น้ำหนักมากขึ้นคะ

11 มีโรคประจำตัว ทาน คาลดี้ คอฟฟี่ ได้ไหม ?

– สามารถทานได้คะ ยกเว้นผู้ที่เป็นโรคไตไม่แนะนำนะคะ เพราะโรคไตควรหลีกเลี่ยงชา กาแฟ อยู่แล้วคะ

12 คาลดี้ คอฟฟี่ เหมาะกับใคร ?

– เหมาะกับทุกคนคะ ทั้งผู้ที่มีปัญหาสุขภาพแล้ว และผู้ที่ยังไม่พบปัญหาสุขภาพ แต่ต้องการทานเพื่อดูแลสุขภาพ ก็สามารถทานได้คะ

13 คาลดี้ คอฟฟี่ มีส่วนประกอบอะไรบ้าง ?

– คาลดี้คอฟฟี่มีส่วนประกอบทั้งหมด 32 ชนิด แบ่งกลุ่มที่ออกแบบมาเพื่อผลลัพธ์ด้านต่างๆ ที่ต้องการดังนี้คะ

กระดูกและข้อต่อ – คอลลาเจน ไตรเป็ปไทด์, สารสกัดจากเมล็ดงาดำ, แคลเซียม, ผงสาหร่ายสไปรูลิน่า, สารสกัดจากผงกุหลาบป่า
สายตาและการมองเห็น – ลูทีน, สารสกัดจากโกจิเบอร์รี่, สารสกัดจากบีทรูท, เบต้าแคโรทีน
สมองและระบบประสาท – ผงรังนก, แอล-กลูตามีน, วิตามิน บี1, วิตามิน บี12
ระบบการเผาผลาญและระบบขับถ่าย – สารสกัดจากถั่วขาว, ไซเลี่ยมฮัสก์, สารสกัดจากส้มแขก, สารสกัดจากกระบองเพชร, ผงพรุน, แอปเปิ้ล ไฟเบอร์, สตีวิออลไกลโคไซด์, โครเมียมพิโคลิเนต
องค์รวมของร่างกาย – สารสกัดจากถั่งเช่า, สารสกัดจากโสม, สารสกัดจากเห็ดหลินจือ, สารสกัดจากตังกุย, โคเอนไซม์คิวเท็น, วิตามิน อี, แอล-อาร์จีนีน, สารสกัดจากพลูคาว

14 ผสมแบบไหนถึงจะได้รสชาติดี ? เติมกาแฟอื่นได้ไหม ?

– แนะนำให้ใช้น้ำร้อนปริมาณ 120 มล. โดยใส่น้ำในแก้วก่อน เพื่ออุ่นแก้วให้ร้อน แล้วค่อยเท คาลดี้ คอฟฟี่ ลงไปผสมคะ ควรผสมน้ำแต่น้อยนะคะ ถ้ารสชาติเข้มข้นไป ค่อยเติมน้ำร้อนเพิ่มทีหลังคะ

สำหรับท่านที่ชอบทานกาแฟแบบเข้มข้น หรือทานกาแฟดำมาก่อน สามารถเติมกาแฟดำผสมเพิ่มเติมลงไปได้คะ หรือบางท่านผสม คาลดี้ คอฟฟี่ กับโกโก้ ก็ได้รสชาติดี อร่อยมากๆ คะ


ช่องทางการจำหน่าย